ColorfulEnglish เก่งอังกฤษด้วยศิลปะ
  • Home
  • About Us
  • Classes
    • Courses
    • Arts & Crafts
    • Cooking
    • Science
    • Games
  • Events & Activities
    • Press Release >
      • Mother & Care
      • ครอบครัวข่าวเด็ก
    • Charity >
      • GreenPeace
      • Donation For The Orphans
      • Donation for Baan Gerda
      • Together We Can
      • Sharing is Caring.
    • ColorfulEnglish’s Channel
    • ColorfulEnglish On Tour!
    • Christmas & New Year >
      • Christmas & New Year 2010
      • Christmas & New Year 2013
    • Halloween >
      • Halloween 2010
      • Halloween 2012
    • Job Opportunities
  • Articles
    • Kru Ann's Blog
    • บทความเก่งอังกฤษ
    • บทความเก่งศิลปะ
  • Contact Us
    • Map
  • Little Anna & The Gang

My name is Orchid.

7/29/2017

0 Comments

 
Orchid has started taking courses here since she was about 6 years old. Up until today, her English has improved significantly. I’m so proud of her. 
0 Comments

25 Random Things About Me

1/8/2014

0 Comments

 
เมื่อ 3 ปีก่อนเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่อเมริกา tag เกมส์มาให้ครูแอนเล่นค่ะ แต่ครูดันไม่เห็น tag พึ่งจะเห็นก็วันนี้ ชอบ tag นี้จังค่ะ เพราะน่าจะเป็น tag หนึ่งที่ทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น เขียนเสร็จเลยเอามาลงที่นี่ด้วย ^^

25 Random Things About Me
January 1, 2014 at 5:45am
Once you've been tagged, you are supposed to write a note with 25 random things, facts, habits, or goals about you. At the end, choos...
e 25 people to be tagged. You have to tag the person who tagged you. If I tagged you, it's because I want to know more about you.

1) My lifetime idol is Hayao Miyazaki.

2) One of my friends was very surprised when she knew that I cried when I watched ‘Totoro.’

3) I used to have a rabbit named John when I was in my teen. He was very cute.

4) I was very sensitive as a little girl. My relatives used to call me, ‘Crying Baby.’ =.=’

5) I used to borrow Deathnote from Mary Sue To, but I’m pretty sure I returned them already. Did I? =.=’

6) I collect books. My favorite moment is to lie down on my bed and read books.

7) I always feel guilty that I don’t have time to draw anymore. So, I promise myself to draw more next year. Hopefully, I’ll be able to accomplish it!

8) My first dream was to become a kindergarten teacher. Well, lucky enough, I teach arts to kids now. Happy!

9) In high school, I always wanted to become an artist, but my dad didn’t allow me. He told me if I change my major from Chemistry to Art, he won’t pay for my tuition fees anymore. After the argument, I found a fulltime job and supported myself.

10) About two years later, he changed his mind and started to pay for my tuition fees.

11) Actually traditional painting almost made me cry too. Mary, you’re not the only one.

12) I was also super happy when Zebot complimented me on my watercolor painting and said "You finally find your own medium, Rujiret."

13) I don’t like to talk in front of many people. Whenever someone asks me to join their parties, I usually sit and listen to what other people say. I guess I’m a good listener.

14) Recently, a friend of mine told me that I’m an optimistic person. I felt very happy to hear that.

15) I love going to beaches. I can sit and listen to ripple all day long.

16) I love to listen to music. I love the sound of piano. So, I took piano class when I was in the States.

17) I am a workaholic person. I once worked three days straight without sleep.

18) I started to wear glasses when I was 13.

19) One of my classmates said I wore glasses because I wanted to look cool. I didn’t know how he could possibly think like that.

20) People started to call me ‘Weirdo’ when I was little. They thought they could hurt me that way. Honestly, I like to be called, ‘Weirdo.’ Somehow, I think weird people are the cool people. =.=’

21) My second dream was to become a cashier in superstores. Lucky again, I worked fulltime as a cashier when I was in the States.

22) Regrets? Of course, the first time I learned how to drive, my car accidentally hit a stray dog around my house. Lucky that he was little injured and after his wound was healed I asked my mom if I could have him as my pet, but my mom refused, so, the only thing I could do for him was to feed him every day. Sad!

23) One time, I cooked live crabs and felt very guilty about it. Since then I promised myself that I will never ever do that again in my life. T.T

24) I have wanted to lose weight since 3 years ago.

25) As you can guess, I have not lost any of my weight at all. Sad!
0 Comments

การยอมรับในตัวตนของลูก

1/8/2014

0 Comments

 
การยอมรับในตัวตนของลูก

เป็นปณิธานที่ตั้งขึ้นเองว่าทุกปีจะให้เงินพิเศษกับพ่อแม่และยายเป็นของขวัญปีใหม่ ปีนี้ก็เหมือนทุกๆปีที่ผ่านมา แต่ทั้งที่ควรจะมีความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ มันมีเรื่องที่อาจจะดูเหมือนเล็กน้อย แต่ก็อดทำให้รู้สึกเซ็งนิดๆไม่ได้ พ่อที่ไม่เคยสนับสนุนและรู้สึกดีกับทางเดินที่ลูกคนนี้เลือก ลิขิต และพร้อมที่จะทำงานอย่างหนักเพื่อไปให้ถึงความฝันที่ตั้งไว้ พูดเปรียบทางเดินของน้องกับทางเดิน...
ของลูกคนนี้ น้องที่ได้ดั่งใจพ่อในเรื่องการงาน จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เพราะการเลือกที่จะเป็นแกะดำ การเลือกชีวิตที่ลิขิตเองแต่ขัดใจพ่อแม่ ก็ทำให้ทำใจเอาไว้แต่ต้นว่าคงจะไม่มีใครเข้าใจ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกน้อยใจ หรืออิจฉาน้องสาวเลยแม้แต่น้อย เพราะการได้เลือกทำในสิ่งที่รัก และมีความสุขกับมันทุกวัน ทำให้ไม่มีความรู้สึกลบๆอย่างนั้นในใจ เพียงแค่อดคิดไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ พ่อจะยอมรับในสิ่งที่ลูกคนนี้ได้เลือกและเป็นเสียที

การยอมรับในตัวตนที่แท้จริงของลูกเป็นสิ่งที่สำคัญมากนะคะ ไม่ว่าลูกจะโตแค่ไหน เพราะการไม่ได้รับการยอมรับอย่างแท้จริงจากคนเป็นพ่อเป็นแม่ แม้จะทำให้เราเป็นคนฮึด อึด สู้ชีวิต และไม่ยอมแพ้กับอะไรง่ายๆ เพราะเรารู้ว่าเราต้องต่อสู้ดิ้นรนด้วยตัวเองทุกอย่าง เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีใครให้การสนับสนุน แต่อีกด้านหนึ่งก็กลับทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยวและคิดอยู่เสมอว่าอยู่บนโลกใบนี้คนเดียว

มันจะดีกว่าไหมที่พ่อแม่ทุกคนจะเปิดใจและยอมรับ จะดีกว่าไหมที่ลูกจะรู้สึกว่าพ่อแม่เข้าใจ เพราะเมื่อมีปัญหาอะไรลูกก็อยากที่จะปรึกษา (นานมากแล้วที่ไม่เคยปรึกษาอะไรพ่อแม่เลย ถ้าคุยกันก็จะคุยกันเรื่องอื่น หรือเรื่องทั่วๆไป) จะดีกว่าไหมที่ลูกจะรู้สึกกับพ่อแม่เหมือนเป็นเพื่อนกัน เพราะการเป็นเพื่อนกันนั้นก็หมายความว่าจะไม่มีเส้นบางๆที่ขีดขั้นความสัมพันธ์และความรู้สึกระหว่างกัน บางทีเส้นบางๆที่แบ่งเราเป็นคนละฝ่ายอาจถูกลบออกไปง่ายๆด้วยการยอมรับในตัวตนของกันและกันอย่างแท้จริง เรามาเปิดใจกันเถอะค่ะ อย่างน้อยๆลูกๆจะได้ไม่รู้สึกว่าสู้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้
0 Comments

โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง Totto-chan, the Little Girl at the Window

1/8/2014

0 Comments

 
Picture
โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง
 

เป็นเรื่องแปลกมากค่ะกับหนังสือเล่มนี้ ที่มีผู้ปกครองหลายท่านที่พาลูกๆมาเรียนที่ColorfulEnglish ถามครูว่าเคยอ่านหนังสือเล่มนี้ไหม ครูเลยตอบกลับไปว่า เป็นหนังสือที่รักมากค่ะ อ่านมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ และทุกค...รั้งที่อ่านก็ยังรู้สึกอบอุ่น ประทับใจ(แม้จะมีหลายตอนที่แอบเศร้าน้ำตาซึม)เหมือนเคย จริงๆแล้วหนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากเป็นครูที่เข้าใจเด็กๆอย่างครูโคบายาชิบ้าง

หนังสือบอกเล่าเรื่องราวในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ของหนูน้อยโต๊ะโตะจัง ผ่านความคิดอ่าน ความประทับใจ การถูกปลูกฝังให้มีอิสระทางความคิด ความเชื่อใจ…มั่นใจในตัวเด็กน้อยคนหนึ่งของครูใหญ่แห่งโรงเรียนโทโมเอ มีหลายต่อหลายตอนที่ทำให้แอบอิจฉาหนูน้อยโต๊ะโตะจัง และก็มีอีกหลายตอนที่ทำให้รู้สึกเศร้าใจไปกับเธอ

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านจบแล้วตั้งคำถามมากมายว่าโรงเรียนอย่างโรงเรียนโทโมเอมีจริงหรือ ทั้งเรื่องระบบการเรียนการสอน เรื่องความแปลกใจที่ได้รับรู้ว่ามีสังคมเล็กๆอีกสังคมนั้นมีคุณครูที่มีความคิดแหวกแนวและพยายามเข้าใจธรรมชาติของเด็กๆอย่างแท้จริง เป็นหนังสือที่ดีและอยากให้ผู้ปกครองที่มีลูกเล็กๆได้อ่าน ได้เข้าใจเด็กๆค่ะ

Totto-chan, the Little Girl at the Window
 

Started out like other kids in Thailand, I spent most of my childhood reading comics and manga. One day, I came up with a new idea that I should read something more valuable…something very deep…deep enough to change my viewpoints. At the age of 13, I went to a bookstore near my house and luckily found Totto-chan, the Little Girl at the Window, the book that had changed my life forever.

After finished reading the book, I couldn’t stop asking myself how I could find a teacher like Mr. Kobayashi, the teacher who devoted his whole life to children, the teacher who tried his best to understand and learn from his students. I couldn’t help but felt very jealous of Totto-chan.

Seeing our education system failing badly, I always suggest everyone I know to read Totto-chan. Trust me, after reading the book you will start asking yourself questions such as where I can find a school like Tomoe Gakuen or I wish I knew a teacher who would understand and trusted me like Mr. Kobayashi…only one teacher…that’s enough already.

To me after reading the book, I knew exactly what I want to do with my future.

ปล. รูปเอามาจากเว็บ tarad.com ค่ะ


0 Comments

รากเหง้า

12/30/2013

0 Comments

 

รากเหง้า

Picture
วันนี้มีผู้ปกครองนักเรียนท่านหนึ่งชวนไปดูโขนค่ะ ครูรีบตกปากรับคำด้วยความดีใจ
เพราะสนใจอะไรก็ตามที่เป็นศิลปะ วัฒนธรรมของชาติมานานแต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ดู ได้สัมผัสเท่าไหร่

จริงแล้วสมัยวัยรุ่นก็ไม่เคยสนใจอะไรไทยๆเลย ใจมันอยากจะออกแต่นอกประเทศ
สนใจแต่วัฒนธรรมต่างชาติ จนได้ไปเรียนต่อสมใจ ไปถึงก็เริ่มเสพศิลปะของต่างชาติ ไปดูทั้งซิมโฟนี ออร์เคสตรา ทั้งสเตจโชว์กึ่งโอเปร่า ดูไปดูมาก็เลยเริ่มหัน...
กลับมามองดูตัวเอง ดูรากเหง้าของตัวเอง ค้นไปค้นมาก็พบว่าไทยเรามีศิลปะ วัฒนธรรมหลายอย่างที่น่าสนใจ แต่ก็ค่อยๆสูญหายตายไปเพราะคนรุ่นใหม่ๆไม่ค่อยให้ความสำคัญ…น่าเสียดายนะคะ

ตอนเรียนอยู่ที่อเมริกามีเพื่อนชาวแม็กซิกันคนหนึ่ง เป็นคนที่น่าสนใจมากสำหรับครูแอน เพราะเค้าทุ่มเทแรงกายแรงใจที่จะทำให้เด็กและวัยรุ่นชาวแม็กซิกันที่เกิดและเติบโตในอเมริกาได้หันกลับมาศึกษาความเป็นแม็กซิกัน เค้ามีวงดนตรีที่เล่นเครื่องดนตรีแม็กซิกัน เค้าไปช่วยสอนศิลปะ, ดนตรีและบอกเล่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับแม็กซิโกให้แก่เด็กๆ

ครูแอนสงสัยและเคยถามว่าทำไมเค้าถึงยอมทุ่มเทขนาดนี้ทั้งที่ไม่ได้เงินสักนิด
เค้าก็แค่บอกกลับครูแอนว่า, “ปราศจากรากเหง้า เราก็เหมือนกับคนที่ไม่รู้จักตัวเอง เหมือนคนที่ตายไปแล้วทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่”
0 Comments

ค้นหาตัวเองให้เจอ

12/30/2013

0 Comments

 

ค้นหาตัวเองให้เจอ

ช่วงนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ปกครองเด็กหลายๆท่าน ทั้งเรื่องการเลือกโรงเรียน การพยายามสอบเข้าโรงเรียนที่คนในสังคมเห็นตรงกันเป็นส่วนมากว่าดี การที่เด็กๆต้องติวกันอย่างหนักตั้งแต่เล็กๆเพื่อที่จะสอบเข้าให้ได้ แล้วกลับมาคิดค่ะว่า เอ ทำไมไม่ค่อยมีคนให้ความสำคัญกับการค้นหาตัวตนของเด็กๆให้เจอ การค้นหาตัวเองให้พบน่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสิ่งหนึ่ง เพราะนั่นเป็นตัวชี้ว่าเด็กๆโตขึ้นแล้วอยากเป็นอะไร อยากทำอะไร ทำอะไรแล้วมีความสุข เพราะการทำงานอย่างมีความสุข ก็เหมือนกับการที่เราได้ทำในสิ่งที่รักทุกๆวัน

ครูแอนยังจำความรู้สึกในวันแรกที่ได้เรียนวาดรูปว่าตื่นเต้นแค่ไหน ยังจำความรู้สึกในวันแรกของการสอนเด็กๆว่าสนุกแค่ไหน และความรู้สึกเหล่านั้นก็ยังคงอยู่ ยังมีความสุขกับงานที่ทำ กับสิ่งที่ทำทุกวัน จนอดคิดว่าทำไมเวลาในแต่ละวันมันช่างหมดไปไวเหลือเกิน

ครูก็เลยอยากให้ลูกศิษย์ทุกคนมีความรู้สึกเดียวกันคือ อยากตื่นมาทำงานทุกวันเพราะมันมีความสุขมากๆ ที่พิมพ์ออกมาทั้งหมดก็แค่หวังว่าสักวันเด็กๆจะค้นหาตัวเองให้เจอ…เท่านั้นเอง
0 Comments

อัดอั้น…ตันใจ

12/29/2012

0 Comments

 
อัดอั้น…ตันใจ

ไหนๆก็ไหนๆแล้วขอบ่นหน่อยเหอะ วันนี้ได้คุยกับคุณแม่น้องท่านหนึ่งเรื่องการส่งลูกไปเรียน จริงๆแล้วควรส่งลูกไปเรียนร.ร.ไหนดี ช่วงแรกคุณม่น้องพูดถึงแต่ร.ร.ที่มีชื่อเสียงต่างๆ เราอดไม่ได้เล่าให้คุณแม่น้องฟังถึง ร.ร.วัดอยู่ร.ร.หนึ่ง  ที่สอนแบบมอนเตสซอรี่ เราบอกว่า ถ้ามีลูกแล้วย้ายออกไปนอกเมืองหน่อย ก็จะพาไปเข้าร.ร.วัดนี่น่ะแหละ อดไม่ได้ที่จะบอกกับคุณแม่น้องว่าอย่าไปยึดติดกับชื่อเสียงมากมาย เพราะเด็กที่เราเคยสอน ก็เรียนอยู่สาธิตเกษตร แต่เป็นเด็กมีปัญหา…ปัญหาที่เกิดจากปัจจัยภายนอก…เกิดจากสังคมในร.ร. ครูที่ดีที่สุดก็คือพ่อแม่เด็กนั่นแหละ ถ้าอยากให้ลูกเป็นอย่างไรก็จงปฏิบัติตัวแบบนั้น

ยอมรับว่าพอเราเห็นระบบที่แตกต่างกันมากๆมา เราไม่เคยสนับสนุนการสอบเข้าของเด็กวัยอนุบาลเลย (ถ้าไม่ถูกใจใคร เราขอโทษด้วย แต่ยิ่งอ่านอะไรที่มันขัดใจ แล้วของมันขึ้นน่ะ ขอระบายนิด) เด็กในประเทศที่เราไปเห็นมา ไม่มีใครเรียนวิชาการกันเยอะเท่าเด็กๆของเราเลย บางประเทศไม่มีอนุบาลด้วยซ้ำ แล้วระบบการคัดกรองเด็กเข้าร.ร.ในเด็กเล็ก  ก็เป็นเพียงแค่การสัมภาษณ์ดูความพร้อม ไม่ใช่สอบกันจะเป็นจะตายเหมือนจะเตรียมเด็กตัวจิ๋วให้เข้ามหาวิทยาลัยแบบนี้ ระบบที่เห็นมาคือระบบเขตบ้านใกล้คือ...ใกล้ที่ไหน ไปที่นั่น แล้วจากนั้นค่อยมาวัดมาตรฐานร.ร.แบ่งตามเขตต่างๆอีกที ในความคิดเราอย่างน้อยระบบนี้ก็พยายามที่จะปรับปรุง พัฒนาร.ร.ต่างๆให้เท่าเทียมกัน ซึ่งต่างจากระบบของเราที่แข่งขันกันแทบตาย แต่พอวัดดูจริงๆทั้งประเทศ  ระบบการเรียนของเรากลับล้มเหลว…ไม่เป็นท่า

ดูจากตัวเองเป็นหลักเลย ตอนไปเรียนที่อเมริกาใหม่ๆ ภาษาอังกฤษไม่กระดิก ทั้งๆที่เรียนมาตั้งแต่อนุบาล พอภาษาดีขึ้นปรากฏว่า    ดันอ่อนด้อยด้านความคิดและจินตนาการเมื่อไปเทียบกับพวกฝรั่งหัวทอง    คนผิวเหลืองอย่างเราเลยอดไม่ได้จริงๆที่จะโทษความล้มเหลวของระบบการศึกษาไทย

แล้วที่สะท้อนใจคือ เด็กบางคนที่พออยู่ในสังคมการแข่งขันกันมากเกินไป กลับไม่รู้จักการแบ่งปัน เพราะชีวิตมีแต่ได้ ไม่เคยต้องให้ใคร เค้าไม่เข้าใจเรื่องการแบ่งปัน เห็นแบบนี้เราเองที่เป็นครู ก็อดหวั่นใจกับอนาคตของทั้งตัวเด็กเอง และประเทศชาติของเราไม่ได้จริงๆ เรื่องนี้ก็ไม่รู้ว่าจะโทษใคร ก็คงได้แต่โทษตัวเองว่าเราคงไม่มีความสามารถพอ ที่จะทำให้เด็กๆเข้าใจถึงการแบ่งปัน
0 Comments

Donation

12/20/2012

0 Comments

 
เมื่อหลายวันก่อนมีคนถามเราว่า  ทำไมเราถึงหักเงินรายได้ส่วนหนึ่งไปบริจาค  ทั้งๆที่เรายังมีภาระมากมาย 
โรงเรียนก็ยังไม่มั่นคงพอที่จะอยู่ได้ด้วยตัวเอง  คนถามไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่

เราแค่ตอบไปว่า เงินที่เราแบ่งไปบริจาคนั้นไม่ใช่เงินจำนวนมหาศาลเลย 
จริงๆแล้วเป็นเงินที่น้อยนิดเมื่อเทียบกับความต้องการจริงๆที่เด็กๆในประเทศนี้ต้องการ 
และที่สำคัญเงินส่วนนี้จะไม่มีผลกระทบอะไรกับโรงเรียนของเราแน่นอน  เรายังตอบคนถามไปอีกว่า 
เราเชื่อว่าการสร้างสังคมในแบบที่เราต้องการ ต้องเริ่มที่ตัวเรา หลายต่อหลายครั้งที่เราถูกจุดประกายที่จะทำสิ่งดีๆจากปัจจัยภายนอก  เราก็แค่หวังเล็กๆว่าการทำความดีเพียงเล็กน้อยของเราจะไปจุดประกายให้คนที่อยากทำสิ่งดีๆได้เริ่มที่จะลงมือทำสิ่งดีๆให้แก่สังคมเหมือนที่เราเคยถูกจุดประกาย  
 
และวันนี้เราก็เห็นแล้วว่าสิ่งที่เราคิดและพยายามนั้นบังเกิดผลดีๆมากมาย การทำความดีมันส่งต่อจากคนหนึ่งไปสู่คนอีกหลายๆคน  จากคนหลายๆคนไปสู่คนอีกหลายๆๆๆคน  เป็นวงกว้างขึ้น…กว้างขึ้นเรื่อยๆ  
 
คนที่ไม่เข้าใจก็ยังคงไม่เข้าใจ   แต่คนที่เข้าใจก็คงจะรู้ว่า...ความรู้สึกอิ่มเอมใจมันเป็นยังไง…


0 Comments

น้องอิ๋งอิ๋ง

3/14/2012

0 Comments

 
Picture
หลังจากที่เราพบกันวันทดลองเรียน
เมื่อวานนี้เป็นวันแรกที่เราได้เรียนอย่างกันจริงจัง
อิ๋งอิ๋งพูดภาษาอังกฤษเก่งมากค่ะ วันนี้คุยจ้อเลยค่ะ ไม่ต้องเขินกันอีกแล้ว ^^


อิ๋งอิ๋งยังเรียงประโยคผิดอยู่บ้างและมีคำศัพท์บางตัวที่ยังไม่ได้
แต่น้องยังเล็กท...ำได้ขนาดนี้ก็เก่งมากแล้วค่ะ
เดี๋ยวค่อยๆแก้ไปก็จะดีขึ้นเอง

ข้อดีคือ
อิ๋งอิ๋งจะถามทันทีที่ไม่รู้ศัพท์ เดี๋ยวถ้ามาเรียนบ่อยๆ
แล้วน้องจะซึมซับคำศัพท์ไปได้เองอย่างเป็นธรรมชาติ เรื่องนี้คุณแม่ไม่ต้องกังวลค่ะ
ทางด้านความคิดสร้างสรรค์ถือว่าดีมาก สามารถคิดต่อยอดทั้งเรื่องการปั้น และ
การเล่นได้ดีทีเดียวค่ะ


คราวหน้าถ้าเรียนปั้นอีกจะให้อิ๋งอิ๋งทำชิ้นงานที่มีรายละเอียดเพิ่มขึ้นนะคะ ^^
น้องมีสมาธิดี ตั้งใจทำงานดี ที่ขาดไม่ได้เลยคือ น้องร่าเริง ยิ้มแย้มตลอด
เป็นเด็กอารมณ์ดีมากมายเลยค่ะ 
0 Comments

    ครูแอน

    Archives

    July 2017
    January 2014
    December 2013
    December 2012
    March 2012

    Categories

    All

    RSS Feed

Powered by
✕